ประสบการณ์คนไข้ หลังกิน ดีโทก้า

 

เคสภูมิคุ้มกันร่างการบกพร่อง

คุณนฤชล พรธนนันท์ อายุ: 37 ปี

“ช่วงก่อนกินดีโทก้า คนไข้ภูมิคุ้มกันตกมาก จากผล NK Cell อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คือ 15 จึงส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ ไม่สดชื่น เหตุเพราะคนไข้นอนดึกทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่หลังจากที่คนไข้กินดีโทก้า เป็นเวลา 2 เดือน ค่า NK Cell ขึ้นมาอยู่ในระดับปกติ 44 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ร่างกายแข็งแรงขึ้น สดชื่นขึ้น ป่วยน้อยลงตามลำดับ”

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล 

เคส มะเร็งรังไข่และเต้านม STAGE 1

คุณประไพ รินรักษา อายุ: 50 ปี

“ตอนที่รู้ครั้งแรกว่าเป็นมะเร็ง รู้สึกเครียดมาก เพราะกลัวว่าจะไม่หาย และคงต้องใช้เงินในการรักษาเยอะ และใจเราเองก็ไม่ต้องการทำคีโม ฉายแสง เพราะอายุเยอะและกลัวว่าร่างกายอ่อนแอจะรับไม่ไหว จนกระทั่งญาติที่เป็นนางพยาบาล ให้คำแนะนำว่า ให้เปลี่ยนวิถีชีวิตทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร และทำสภาพจิตใจให้เข้มแข็ง และก็ให้ทดลองกินดีโทก้า ตอนแรกก็กิน 3 เม็ด 3 มื้อตามโดสของการรักษา พอกินไป 2-3 วันแรก รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย ตัวร้อนเหมือนคนเป็นไข้ ทางญาติก็เลยลองให้ลดโดส ให้เหลือ 2 เม็ด 3 มื้อ อาการมึนหัวหายไป รู้สึกไม่อ่อนเพลีย เจริญอาหาร มีคนทักว่าหน้าตาดูสดใสขึ้น หลังจากกินได้ 2 ขวด ก็ลองไปตรวจเลือด ผลปรากฎว่า ค่ามะเร็งลดลงมาก จนหมอแปลกใจ แต่ก้อนเนื้อก็ยังมีอยู่ ก็เลยลองกินต่ออีก ประมาณ 1 เดือน ล่าสุดเพิ่งไปตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ พบว่า ไม่มีก้อนมะเร็งแล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะ เพราะไม่คิดเลยว่าจะหายได้ แต่สุดท้ายก็หาย ตอนนี้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากค่ะ กินได้ นอนหลับ มีเรี่ยวมีแรง มีความสุขมากค่ะ”

ปัจจุบันผลตรวจล่าสุด ไม่พบเซลล์มะเร็งแล้ว

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล 

เคส มะเร็งเต้านม STAGE 1

คุณจรุญ พรหมโครต อายุ: 68 ปี

“ปกติเป็นคนตรวจร่างกายประจำปีอยู่แล้ว เพราะมีโรคประจำตัวคือ เรื่องความดันและต้องกินยาความดันตลอด จนล่าสุดไปตรวจเลือด หมอบอกว่าเป็นมะเร็งเต้านมใจตอนนั้นคิดว่าฉันต้องตายแน่ๆ กลัวไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง และหมอก็สั่งให้ทำคีโมเลย แต่ญาติที่ไปด้วยกันห้ามไว้ก่อน เพราะด้วยอายุเราก็มากแล้ว กลัวว่าถ้าให้คีโม ฉายแสง อาการจะทรุด แต่โชคดีที่ญาติรู้จักกับเพื่อนที่เป็นพยาบาล เลยแนะนำให้ลองกิน ดีโทก้า ช่วง 2-3 วันแรกที่กิน จะคันตรงจุดที่เป็นมะเร็ง ตัวรุมๆ และปัสสาวะบ่อยมาก เพราะตอนที่กินดีโทก้า ญาติสั่งว่าให้กินน้ำเยอะๆ เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย กินได้ประมาณ 3 ขวด ก็ลองไปตรวจ ค่ามะเร็งอีกครั้ง ปรากฎว่า ค่ามะเร็งลดลง ตื่นเต้น ทั้งหมอและเรา รู้สึกอุ่นใจว่าเรารักษาถูกทาง ก็เลยบอกทางญาติขอกินติดต่อกันอีก สิ่งที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมคือ ค่าความดันก็กลับมาเป็นปกติด้วย เพราะช่วงที่กินดีโทก้า ไม่ได้กินยาความดันเลย ช่วงที่ป่วยแรกๆ กินอะไรไม่ได้เลย เวียนหัวหน้ามืดบ่อย ตอนนี้กินเก่งมาก รู้สึกสดชื่นขึ้นมากค่ะ”

ผลตรวจค่ามะเร็ง ก่อนกิน และหลังกิน

ค่า CA 15-3 (มะเร็งเต้านม) = 33.6 U/ml หลังกิน DETOKA ลดเหลือ 27.4 U/ml

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล 

เคส ไวรัสตับอักเสบ B เรื้อรังและตรวจพบเซลล์ตับเริ่มแบ่งตัวเป็นมะเร็ง

คุณทิวารินทร์ ณ นคร อายุ: 47 ปี | อาชีพ: พนักงานออฟฟิต

“เป็นไวรัสตับอักเสบ B เรื้อรังมานาน เมื่อปีที่แล้ว ได้มาตรวจร่างกายกับคุณหมอฉัตรชัยที่ Absolute health คุณหมอแนะนำให้ตรวจดูการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็ง ซึ่งสามารถตรวจพบตั้งแต่ Stage 0 เป็นเทคโนโลยีของแล็บญี่ปุ่น ชื่อหมอโคบายาชิ ก็เจาะเลือดส่งตรวจ พบว่าเซลล์ตับเริ่มแบ่งตัวเป็นเซลล์มะเร็ง ระยะ 0 แล้ว อีกไม่นานถ้าทิ้งไว้จะเริ่มเป็นก้อนเนื้อ โชคดีมากที่ตรวจเจอตั้งแต่ระยะแรก คุณหมอฉัตรชัย ก็ให้ทำการรักษาเลย ทำ Ozone Therapy ใช้โอโซนบำบัด ทำ 2 แบบ คือแบบที่เอาเลือดออกมาเติมโอโซน และนำกลับเข้าร่างกาย เพื่อให้โอโซนไปฆ่าเชื้อไวรัสในเซลล์ตับ และอีกอย่างคือ เอาโอโซนเข้าทางทวารหนัก เพิื่อให้โอโซนเข้าไปทางเส้นเลือดดำไปสู่ตับเร็วขึ้น แล้วก็ทำเมกาโดสวิตามินซี ทำคีเลชั่นล้างสารพิษด้วยเพราะตรวจพบค่าโลหะหนักปรอท ตะกั่ว สูงมาก ปัญหาคือช่วงที่ทำทรีทเม้นท์ จะมีอาการเวียนหัว เป็นไข้ น้องสาวแนะนำให้กินเอนไซม์ดีโทก้าด้วยตลอด ในช่วงของการทำทรีทเม้นท์ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษา ซึ่งช่วยได้มาก ไม่มีอาการ เวียนหัว เป็นไข้อีกเลย พอครบ 2 เดือนตรวจเลือดใหม่ ผลคือ เซลล์ตับหยุดการแบ่งตัวผิดปกติ ไม่มีเซลล์มะเร็งแล้ว ทุกวันนี้ เกือบปีแล้วที่กินดีโทก้าทุกวัน เช้า เย็น และคอยตรวจดูค่า Viral load ไวรัสตับอักเสบ B ทุกครั้งที่ตรวจเชื้อไวรัส B ลดลงทุกครั้ง จนคุณหมอที่รักษาไวรัสตับ B ที่ โรงพยาบาลรามาบอกว่า ตอนนี้เราไม่ใช่ผู้ป่วยไวรัสตับ B แล้ว ที่เห็นชัดเจนคือเราแข็งแรง ออกกำลังกายได้ทุกวัน ไม่เหนื่อย รู้สึกฟิตกว่าแต่ก่อนมากๆ”

เคส มะเร็งเต้านม

คุณวิไลวรรณ ทวิชศรี อายุ: 62 ปี | อดีตรองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปัจจุบันเกษียณได้ 2 ปี

“ช่วงก่อนเกษียณตรวจพบมะเร็งเต้านม หมอสั่งให้ทำคีโม ฉายแสง น้องที่สนิทกัน เค้าอยู่ในวงการแพทย์ทางเลือก Anti Aging เค้าก็แนะนำว่า ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการทำคีโม ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องภูมิคุ้มกัน เพื่อให้สามารถทำคีโมและฉายแสงได้จนจบครบโปรแกรม ตามระยะเวลาที่หมอกำหนด และที่สำคัญถ้าเราเตรียมร่างกายดี ภูมิคุ้มกันดี ระดับเม็ดเลือดขาวไม่ตก เราก็จะไม่ติดเชื้อง่าย ไม่มีโรคแทรกซ้อนต่างๆ ในระหว่างที่เราทำคีโม เพราะเราก็ได้ยินมาเยอะว่า คนทำคีโมร่างกายจะอ่อนแอมาก ติดเชื้อง่าย บางทีทำคีโมแล้วตายซะก่อน ไม่ได้ตายจากมะเร็ง แต่ตายจากการติดเชื้อจากโรคอื่นๆ ที่มาโจมตีร่างกายเรา ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันเราตก ซึ่งเป็นผลมาจากการทำคีโมเคมีบำบัดนี่แหละ

เราก็เชื่อเค้าทำตามที่เค้าแนะนำเลย ช่วงก่อนที่จะเริ่มทำคีโม ก็ฉีดวิตามินซี เข้าทางสายน้ำเกลือ กินเอนไซม์เสริมภูมิต้านทานดีโทก้า ถึงวันที่ทำคีโม ก็ไปทำ ก็มีอาการเวียนหัวบ้าง เพลียบ้าง แต่นอนพักวันเดียวก็หาย หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติ พอซักระยะนึง ผมก็เริ่มร่วง เราก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไร เพราะเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ก็ซื้อวิกสวยๆ ทรงนั้น ทรงนี้มาใส่ ช่วงนั้นก็ยังต้องทำงาน ยังเป็นรองผู้ว่าฯ ททท. อยู่ ก็เจอผู้คนอยู่ทุกวัน ทุกคนก็จะบอกว่า ไม่อยากเชื่อว่าเราเป็นผู้ป่วยมะเร็ง ที่อยู่ในระหว่างการทำคีโม ฉายแสง เพราะสภาพของเราก็สดใส แข็งแรงดีเป็นปกติ เหมือนไม่ได้ป่วย

พอครบกำหนดทำคีโมแต่ละครั้ง หมอก็ต้องเจาะเลือดดูก่อนเพื่อ เช็คสภาพเม็ดเลือดเรา เช็คระดับภูมิคุ้มกันเรา ว่าเราพร้อมจะให้คีโมต่อมั้ย ซึ่งปรากฎว่าเราก็ผ่านตลอด สามารถทำคีโมครบตามโปรแกรมที่หมอกำหนดไว้ ไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว ที่สำคัญคือ เราไม่ป่วย ไม่โทรม ไม่มีการติดเชื้อเลย ใช้ชีวิตได้ตามปกติ จนครบกำหนดคีโมฉายแสง หมอบอกว่าไม่มีเชื้อมะเร็งแล้ว เหลือแค่ไปพบแพทย์ ตามนัด monitor ดูค่า Tumor marker ไปเรื่อยๆ และก็ยังกินเอนไซม์ดีโทก้า อยู่เป็นประจำทุกวัน เพื่อเสริมภูมิต้านทานให้ตัวเอง ที่ชอบมากคือ รู้สึกว่าแข็งแรงขึ้นมาก ล่าสุด มีญาติเป็นไข้หวัดใหญ่มาที่บ้าน คนในครอบครัวติดหวัดกันหมดเลย เราก็ติดด้วย ก็รีบกินดีโทก้า 3 เม็ด 3 มื้อเลย ก็นอนซมหวัดอยู่วันเดียว ก็ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าถ้าคนเราอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันก็จะลดน้อยลง มีอะไรที่ช่วยเสริมภูมิได้ก็จะทำ ไม่มีใครอยากป่วย ไม่มีใครอยากเป็นมะเร็งหรอกค่ะ”

คนไข้ที่มีโลหะหนักสะสมในเลือดสูงเล่าประสบการณ์หลังกิน ดีโทก้า

 

เคส ป่วยบ่อยและตรวจพบโลหะหนัก สะสมในร่างกายมาก

คุณนันท์ดาภัทร ธนสุคนธสิทธิ์ อายุ: 31 ปี | อาชีพ: พนักงานออฟฟิต

“ก่อนหน้านี้ป่วยบ่อยมาก เข้าโรงพยาบาล 3 ครั้ง ต่อปี เพราะทำงานหนัก และดื่มเยอะ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น เมื่ออากาศเปลี่ยนก็จะเริ่มเจ็บคอเป็นไข้ทันที และก็ใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว พอดีที่ออฟฟิตมีการตรวจสุขภาพประจำปี จากผลตรวจเลือดพบว่าโลหะหนักสะสมในร่างกายเยอะ จึงศึกษาหาข้อมูลเพื่อที่จะล้างโลหะหนักออกจากร่างกาย พอดีมีพี่ที่ออฟฟิตแนะนำให้กิน DETOKA เพราะช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้ 2-3 อาทิตย์แรกที่กินแรกรู้สึกเลยว่า ร่างกายไม่อ่อนเพลียและมี Energy มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเวลาป่วยก็หายเร็ว เหมือนภูมิต้านทานมันดีขึ้นด้วย เพราะปกติเวลาป่วยจะนอนซมอยู่ 3-4 วันเป็นอย่างน้อย แต่พอกิน DETOKA ก็ป่วยน้อยลง หรือถ้าป่วยก็ฟื้นตัวเร็ว ตอนนี้พอรู้สึกเริ่มเจ็บคอก็กิน DETOKA เลย 4 เม็ด เช้าและก่อนนอน หลังจากกินได้ประมาณ 2 เดือน ก็ลองไปตรวจค่าโลหะหนักอีกครั้ง ผลตรวจเลือด ค่าโลหะหนักก็ลดลง ค่าตับที่เคยอักเสบก็ลดลงไปด้วย ก็เลยรู้สึกว่าการล้างสารพิษและการเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก็ดีใจที่ได้ทดลอง DETOKA คุณภาพชีวิตดีขึ้นจริงๆ ค่ะ”

ผลเลือดก่อนกิน และหลังกิน

ค่า Arsenic (สารหนู) = 0.63 ug/dl หลังกิน ค่าสารหนูลดลงเหลือ < 0.5 ug/dl
ค่า Lead (ตะกั่ว) = 4.6 ug/dl หลังกิน ค่าตะกั่วลดลงเหลือ 1.9 ug/dl

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล 

เคส ป่วยบ่อยและตรวจพบโลหะหนัก สะสมในร่างกายมาก

คุณวรรณิกา กุนอก อายุ: 36 ปี | อาชีพ: พนักงานบัญชี

“อ่านเจอบทความใน Facebook เรื่องโลหะหนักและสารพิษก่อมะเร็งในปลาร้า และพวกของปิ้งย่าง เริ่มรู้สึกกลัวเพราะชอบกินปลาร้า และของปิ้งย่าง มาเป็น 10 ปี ก็เลยตัดสินใจลองไปตรวจดู ผลที่ได้คือ มีแคดเมียม และปรอทในเลือดสูง ตอนแรกก็รู้สึกเครียดว่าจะล้างสารโลหะหนักออกยังไง มีรุ่นน้องที่ออฟฟิตแนะนำให้กิน DETOKA เพราะเขาก็กินอยู่ ก็เลยลองซื้อมากิน กินได้ 2 เดือน ก็กลับไปตรวจอีกครั้ง ผลปรากฎว่าค่าโลหะหนักลดลง ตื่นเต้นมาก และสิ่งที่ได้ตามมาคือ ร่างกายสดชื่นขึ้น ไม่อ่อนล้าและเพลีย และไม่ป่วยง่ายเหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญที่ชอบมากๆ คือ มีคนทักว่าผิวหน้าใสขึ้นด้วยค่ะ ก็คิดว่าจะกินต่อไปเรื่อยๆ เพราะรู้สึกร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากค่ะ”

ผลเลือดก่อนกิน และหลังกิน

ค่า Cadmium (แคดเมี่ยม) = 2.4 ug/dl หลังกิน ค่าแคดเมี่ยมลดลงเหลือ 1.0 ug/dl
ค่า Mercury (ปรอท) = 0.3 ug/dl หลังกิน ค่าสารปรอทลดลงเหลือ < 0.1 ug/dl

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล 

Let us help you recover your everyday good health.Shop Now